Chrome เป็นหนึ่งในเว็บบราวเซอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ให้บริการโดยบริษัท Google ซึ่งถือเป็นเสิร์ชเอนจินขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของโลก เว็บบราวเซอร์เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับใช้ท่องอินเตอร์เน็ต ในสมัยก่อนเราอาจจะคุ้นเคยกันดีกับ IE ของบริษัท Microsoft Corporation หรือ Firefox ของบริษัท Mozilla นอกจากนี้ยังมีบราวเซอร์ตัวอื่นๆ อย่าง Opera, Safari และ UC Browser แต่เราคงจะบอกได้เต็มปากว่า Chrome เป็นที่นิยมสุดในปัจจุบันนี้ โดยมีผู้ใช้งานมากกว่า 62 เปอร์เซ็นของผู้ใช้ทั่วโลก วันนี้เราจะมาหาสาเหตุกันว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงเลือกใช้โปรแกรมตัวนี้กันมากกว่าเพื่อน
ทำไมโครมถึงได้รับความนิยมกว่า
ข้อได้เปรียบอย่างมากสำหรับ Chrome คงจะบอกได้ว่าพวกเขามีประสบการณ์บนโลกอินเตอร์เน็ตดีกว่าใคร สามารถเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานได้ดีกว่า แถมยังมีทีมพัฒนาที่ฉลาดและมีประสิทธิภาพ ในตอนแรกเราอาจจะเห็นว่ามันยังไม่ได้รับความนิยมเท่าไหร่นักเมื่อออกมาใหม่ๆ จนกระทั่งมันใช้เวลาไม่นานก็สามารถดึงผู้ใช้งานมาจากกลุ่มเว็บบราวเซอร์จนได้ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อเดือนเมษายน ปี 2019 ปัจจุบันตัวเลขผู้ใช้งานพุ่งสูงกว่า 70% และมีผู้ใช้ในเครื่อง PC กว่า 63% แบรนด์ของเขาเป็นที่รู้จักและประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกระทั่งได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมาอย่าง Chrome OS, ChromeCast และ Chromebox
ยังมีเหตุผลสำคัญที่เรายังไม่ได้พูดถึง นั่นก็คือเรื่องความเร็ว ความปลอดภัย และความมีเสถียรภาพที่มากกว่าคู่แข่งคนอื่น เมื่อปี 2008 ผู้พัฒนาได้ทำการทดสอบด้วยเครื่องมือทีเรียกว่า SunSpider ซึ่งเป็นเครื่องมืดวัดประสิทธิภาพของเว็บบราวเซอร์ที่มีความละเอียดสูง ด้วยเทคโนโลยีอย่าง Ray Tracing ผลที่ออกมาคือคะแนนที่สูงกว่าโปรแกรมอื่นๆ อย่าง Safari, Firefox, Opera และ Internet Explorer 8 อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้ทำการทดสอบใหม่อีกครั้งในปี 2010 โดยเน้นวัดในด้านประสิทธิภาพ JavaScript ผลที่ออกมาทำให้ Chrome ตกไปอยู่อันดับที่สองรองจาก Opera
ในส่วนเรื่องของปริสิทธิภาพการทำงานนั้น Chrome ใช้รูปแบบการประมวลผลแบบอิสระ หมายความว่าในแต่ละคำสั่งจะไม่แทรกแซงซึ่งกัน ทำให้มีความเสถียรภาพมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีแฮกเกอร์โจมตีเข้ามาได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าถึงข้อมูลส่วนอื่นๆ ได้ กลยุทธ์นี้ทำให้พวกเขาสร้างความเชื่อถือให้กับโปรแกรมตนเองได้เป็นอย่างดี เสียอย่างเดียวคือเมื่อใช้ไปนานๆ มันจะกินหน่วยความจำเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ต่อมาบราวเซอร์คู่แข่งก็เริ่มนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ในแบบของตนเองอย่างเช่น Safari กับ Firefox นอกจากนี้โครมยังมีเครื่องมือที่เรียกว่า Task Manager ช่วยให้ผู้ใช้เห็นว่าเว็บไซต์และปลั๊กอินใดที่ใช้หน่วยความจำมากที่สุด รวมถึงการควบคุมจัดการดาวน์โหลด และดูการใช้งาน CPU ที่มากเกินไป ทำให้ผู้ใช้สามารถยุติการทำงานได้ง่าย