ก่อนหน้าที่จะมาเป็น “AVG” อย่างที่เรารู้จักในปัจจุบันนี้ มันถือกำเนิดมาจาก “Anti-Virus Guard” ที่ถูกพัฒนาในช่วงปี 1992 จนกระทั่งแบรนด์ AVG ถูกขายต่อให้กับทางบริษัทของเยอรมัน จากนั้นก็ได้ถูกนำไปวางขายในประเทศสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1998 บริษัทของพวกเขาได้ออกโปรแกรมเวอร์ชันฟรีภายใต้ชื่อ “AVG Free Edition” จนได้กลายเป็นที่นิยมแพร่หลายทำให้ผู้คนรู้จักโปรแกรมนี้กันมากขึ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นในเครืออย่างเช่นโปรแกรมป้องกันสปายแวร์ ในปีเดียวกันทางบริษัท Microsoft ก็ได้ประกาศว่าส่วนประกอบของ AVG จะได้เข้าไปอยู่ในระบบปฏิบัติการ Windows Vista ซึ่งตามข้อมูลของทางบริษัทแล้วมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือมากกว่า 100 ล้านคน
โปรแกรม AVG สามารถนำไปใช้งานได้ทั้งในระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานในระบบ Android จัดเป็นประเภทโปรแกรม “Freemium” คือโหลดไปใช้ได้ฟรี แต่หากต้องการความช่วยเหลือด้านเทคนิคจะต้องซื้อบริการในแบบ “Premium Plan” ซึ่งทางบริษัทได้หยุดให้การสนับสนุน Windows XP และ Windows Vista ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2019 ที่ผ่านมานี้เอง ทำให้ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้ Windows 7 หรือสูงกว่าเพื่อรองรับการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ จากทางผู้พัฒนา
AVG ประกอบไปด้วยฟังก์ชันพื้นฐานทั่วไปที่มีในโปรแกรมป้องกันไวรัสและโปรแกรมรักษาความปลอดภัยอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ รวมถึงการสแกนเป็นตามกำหนดการ, สแกนการรับส่ง, ความสามารถในการซ่อมแซมไฟล์ที่ติดไวรัส, สร้างพื้นที่กักกันไฟล์ที่มีความเสี่ยงต่อความเสียหายกับระบบคอมพิวเตอร์ รวมถึงฟีเจอร์สำคัญที่เป็นจุดเด่นสุดของพวกเขาได้แก่
ฟีเจอร์เด่นของทางโปรแกรม
- Link Scanner เป็นเทคโนโลยีของทาง Exploit Prevention Labs ช่วยอัพเดตฐานข้อมูลการป้องกันภัยแบบเรียลไทม์ ประกอบไปด้วย Search-Shield เป็นระบบกรองการค้นหาที่ปลอดภัยตามเรทติ้งในฐานข้อมูลจากลิ้งบน Google หรือ Yahoo ตามด้วยระบบป้องกัน Plus Active Surf-Shield ช่วยสแกนข้อมูลในเว็บไซต์แบบเรียลไทม์เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะเปิดได้อย่างปลอดภัย แต่เกิดปัญหาในช่วงแรกๆ ที่ตัว Link Scanner ได้ไปทำการเพิ่ม Traffic ของทางเว็บไซต์อย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะฟีเจอร์นี้จะเข้าไปสแกนลิ้งค์ทั้งหมดในเว็บล่วงหน้าก่อนผู้ใช้เจะเข้าไป ทำให้เกิดการดึงแบรนด์วิธมากมายอย่างสิ้นเปลือง ส่งผลให้ประสิทธิภาพความเร็วในการเข้ารับชมลดลงอย่างมาก
- AVG Online Shield ระบบที่ช่วยตรวจสอบไฟล์ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่ามันปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต เช่นการส่งไฟล์ผ่านโปรแกรมสนทนา “Instant Messengers” บน Facebook, Line และ Skype รวมถึง VoIP clients เนื่องจากมีผู้ดูแลเว็บจำนวนมากรายงานเข้ามาว่าเกิดปัญหาเกี่ยวขึ้นกับทางเว็บไซต์ของเขาทำให้ทางบริษัทได้ปรับให้แสกนไฟล์เฉพาะเมื่อผู้ใช้ทำการคลิกที่ลิ้งค์เท่านั้น